วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

SwiftPoint เมาส์ไร้สายสุดล้ำ ปากกาและเมาส์ในตัวเดียว

SwiftPoint เมาส์ไร้สายสุดล้ำ ปากกาและเมาส์ในตัวเดียว
SwiftPoint Mouse มีดีไซน์ที่ไม่เหมือนกับเมาส์ทั่วๆ ไป โดยมีดีไซน์ที่มีขนาดเล็ก ลักษณะในการจับคล้ายกับการจับปากกา


SwiftPoint Mouse มีดีไซน์ที่ไม่เหมือนกับเมาส์ทั่วๆ ไป โดยมีดีไซน์ที่มีขนาดเล็ก ลักษณะในการจับคล้ายกับการจับปากกา มีทั้งหมด 2 ปุ่มในการใช้งาน SwiftPoint Mouse ยังมีลูกกลิ้ง (Wheel) ที่มีไว้สำหรับการเลื่อนเว็บ หน้าเอกสาร
สำหรับคนที่ใช้สกอลบาร์บ่อยๆ อีกด้วย ส่วนการควบคุมทิศทางพอยน์เตอร์บนหน้าจอเป็นไปได้อย่างไหลลื่น ไม่ว่าจะเป้นพื้นผิวเรียบหรือไม่เรียบ เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบจริงๆ
SwiftPoint Mouse มีความละเอียดของการใช้งานที่ 1000 dpi ขนาดเล็กทำให้มีน้ำหนักเบา ใช้งานได้คล่องตัว ไม่ต้องกลัวเรื่องแบตเตอรี่จะหมด เพราะสามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็มได้ภายใน ไม่ถึงนาที และใช้งานได้ยาวนานถึง 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว ราคาเปิดตัวที่ $70 (ประมาณ 2,300 บาท) เท่านั้น
SwiftPoint Mouse มีดีไซน์ที่ไม่เหมือนกับเมาส์ทั่วๆ ไป โดยมีดีไซน์ที่มีขนาดเล็ก ลักษณะในการจับคล้ายกับการจับปากกา


SwiftPoint Mouse มีดีไซน์ที่ไม่เหมือนกับเมาส์ทั่วๆ ไป โดยมีดีไซน์ที่มีขนาดเล็ก ลักษณะในการจับคล้ายกับการจับปากกา มีทั้งหมด 2 ปุ่มในการใช้งาน SwiftPoint Mouse ยังมีลูกกลิ้ง (Wheel) ที่มีไว้สำหรับการเลื่อนเว็บ หน้าเอกสาร
สำหรับคนที่ใช้สกอลบาร์บ่อยๆ อีกด้วย ส่วนการควบคุมทิศทางพอยน์เตอร์บนหน้าจอเป็นไปได้อย่างไหลลื่น ไม่ว่าจะเป้นพื้นผิวเรียบหรือไม่เรียบ เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบจริงๆ
SwiftPoint Mouse มีความละเอียดของการใช้งานที่ 1000 dpi ขนาดเล็กทำให้มีน้ำหนักเบา ใช้งานได้คล่องตัว ไม่ต้องกลัวเรื่องแบตเตอรี่จะหมด เพราะสามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็มได้ภายใน ไม่ถึงนาที และใช้งานได้ยาวนานถึง 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว ราคาเปิดตัวที่ $70 (ประมาณ 2,300 บาท) เท่านั้น

วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ด่วน พบช่องโหว่ใหม่ใน window 7

ไมโครซอฟท์ (Microsoft) กำลังตรวจสอบรายงานแจ้งช่องโหว่ที่พบในส่วนอินเตอร์เฟซของ Windows 7 โดยข้อมูลที่มีการเปิดเผยจากทางบริษัท ช่องโหว่ดังกล่าวจะถูกเชื่อมโยงเข้ากับชอร์ทคัต (shortcut) ที่ทำให้เกิดการตีความของคำสั่งไม่ถูกต้อง ผลลัพธ์ทำให้ระบบปฏิบัติการอนุญาตให้รันโค้ดอันตรายได้
"สำหรับคอมพิวเตอร์ที่ปิด (disabled) การทำงานของคำสั่ง AutoPlay แล้ว ลูกค้าจะโดนเล่นงานผ่านช่องโหว่ดังกล่าวก็ต่อเมื่อสืบค้น (browse) เข้าไปยังโฟลเดอร์ราก (root folder) ของไดรฟ์ยูเอสบี หรือฮาร์ดดิสก์แบบใช้ภายนอก ช่องโหว่ของระบบจึงจะทำงานได้ ซึ่งปกติ ฟังก์ชัน AutoPlay ของ Windows 7 สำหรับอุปกรณ์สตอเรจที่ต่อทางพอร์ตยูเอสบี (USB devices) จะถูกปิดการทำงานโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว" แม้จะฟังดูเหมือนพีซีที่ใช้ Windows 7 จะปลอดภัย เนื่องจากชอร์ทคัตอันตรายไม่ถูกเรียกทันทีที่เสียบอุปกรณ์ยูเอสบีด้วยคำสั่ง AutoPlay แต่ Graham Cluley นักวิจัยจาก Sophos บริษัทผู้เชี่ยวชาญระบบรักษาความปลอดภัยเตือนว่า การโจมตีสามารถเริ่มต้นได้โดยอัตโนมัติผ่านทาง Windows Explorer แม้จะปิดการทำงานของฟังก์ชัน AutoRun และ AutoPlay แล้วก็ตาม
"โอกาสที่ผู้ใช้ Windows 7 จะถูกโจมตีด้วยช่องโหว่ดังกล่าวเป็นไปได้มากยิ่งขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อแฮคเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า Ivanlef0u ได้เผยแพร่ชุดคำสั่งที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว (proof-of-concept code) ออกไปบนเน็ต ประเด็นที่น่ากังวลก็คือ แฮคเกอร์ที่ไม่หวังดีคนอื่นๆ อาจกำลังพยายามใช้ช่องโหว่ดังกล่าวก็ได้" Cluley โพสต์ไว้ในบล็อกของ Sophos "ในอดีตเราพบหนอนไวรัส (ตัวอย่าง Conficker ที่ดังมาก) สามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็วผ่านทางอุปกรณ์ยูเอสบี ทำให้หลายๆ บริษัทต้องสั่งให้ฝ่ายไอที disable การทำงานของคำสั่ง AutoPlay ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องเสียงมาก หากเกิดมัลแวร์ที่ใช้ช่องโหว่ที่พบในขณะนี้ ซึ่งยังไม่มีแพตช์ออกมาแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด" อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์ยันยันว่า ช่องโหว่ที่ตรวจสอบอยู่นี้มีโอกาสที่ผู้ไม่หวังดีสามารถใช้ในการแพร่กระจายมัลแวร์ หรือรูทคิทผ่านทางอุปกรณ์ยูเอสบีได้